วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การวัดและประเมินผล

ถ้าเราให้คนอื่นมาดู(วัดเรา) ใช้วิธีของเขา(เป็นมาตรฐาน) มันจะไม่เห็นสิ่งที่เราทำ เราทำอย่างไรเรารู้ของเราและเราวัดตัวเราได้ เราต้องออกแบบวิธีวัดของเราเอง 
ความคิดที่ข้างต้นเป็นความคิดที่ท้าทายมาก

การทำบนสมมุติฐานหนึ่งเมื่อมีผลแล้วใช้อีกสมมุติฐานหนึ่งมาวัดและประเมินทำได้หรือไม่

คงไม่มีคำตอบสำเร็จ

ในทางนโยบายแล้วทำได้เพราะผู้คุมนโยบายเป็นผู้วัด สิ่งที่วัดนั้นมุ่งไปในทางที่เชื่อความเป็นกลางของมาตรฐาน(มาตรฐานคือต่ำสุดที่ต้องการและควรจะเป็น)ใช้สำหรับดูภาพรวมเพื่อปรับปรุง

แต่ในทางปฏิบัติหากเราเชื่อว่าเราเหนือมาตรฐาน เราก็ทำอะไรเหนือมาตรฐาน สร้างเอง เชื่อของเราเองและบรรเจิดไปบนทางของเรา ชื่นชมกันเอง มันคล้ายอะไรรู้ไหม มันเหมือนเราคือจักรวาล ครอบรอบทุกสรรพสิ่งและสิ่งที่พบอยู่ในจักรวาลของเราที่เราอธิบายได้เหนือกว่า เราสร้างความเชื่อมั่นนั้นแล้วด้วยจินตนาการบนฐานคิดของเราเรามุ่งไปโดยหวังครอบรอบความเป็นอยู่ที่มีและสัมผัสได้

หากเราตอบสิ่งที่เราคิดได้คือเราเห็นสิ่งที่เราทำ เรารู้ด้วยการวัดตัวเรา นั่นคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เพราะมันประกอบด้วยความเชื่อมั่น ความพยายาม ความระลึกรู้ ความเป็นหนึ่งเดียวและความรู้รอบตามจริง (พุทธศาสนา เรียกสิ่งนี้ว่า ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ซึ่งพัฒนาถึงขีดสุดคือความว่าง)

ในทางยุทธศาสตร์แล้วทำได้ สิ่งที่ไปก่อนย่อมครอบครองพื้นที่ได้มากและบางครั้งทั้งหมด(ISO ทั้งหลายก็เช่นกัน) ยุทธศาสตร์คือภายนอกภายในและการได้เปรียบในการตัดสินและทำ(ให้คนอื่นทำ)

ด้วยระดับการวัดที่มนุษย์มีทุกวันนี้ไม่สามารถวัดทุกสิ่งที่ปรารถนาได้ แต่มนุษย์วัดสิ่งที่ไม่ปรารถนาได้ดีมาก ด้วยระดับการวัดดังนี้ เหตุผล ความรู้สึก และร่างกาย วัดเพื่อจะปฏิเสธ กับวัดเพื่อจะยอมรับ และวัดเพียงแค่เพื่อที่จะวัด บางครั้งวัดเพื่อให้ตนเจ็บช้ำไม่ใช่วัดเพื่อสร้างสรรค์(ลองทบทวนตัวเองดูได้นะครับ)

เมื่อเราทำบางอย่างเราจะเพลิดเพลิน และถ้าเราดื่มด่ำกับมัน ต่อไปเราจะพร่ำถึงมัน การตัดสินก็เช่นกัน ดังนั้น เมื่อเป็นผู้ประเมินเราไม่ควร เพลิดเพลิน ดื่มด่ำ และพร่ำถึง สิ่งเหล่านี้ทำให้เราตกจมอยู่กับความยึดถือ ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ อย่างอื่นไม่ใช่ ตราบใดที่ความรู้ไหลไป คนมีความสุข นั่นคือยอดปรารถนา แล้วเราจะวัดหาอะไรในสิ่งที่เราจะไปกำหนดไม่ได้ เราเอาแผนแม่บทมากางเพื่อจะยืนยันความพยายาม ความคิด และความต้องการ(แผนจะแฝงไว้ด้วยสิ่งนี้เสมอ)ของอนาคตที่หวังไว้ในอดีต

โปรดอย่างลืมว่าเราวัดเพื่อพัฒนา นั่นหมายความว่า ศึกษาปัจจุบันเพื่อบีบบังคับอนาคต บนความเป็นไป(สุขหรือเจ็บช้ำ)ของอดีตที่แก้ไม่ได้แต่เรียนรู้ได้
ความท้าทายดั่งนี้นำพาให้โลกเจริญ พัฒนาไปโดยไม่เพลิดเพลิน ดื่มด่ำ และพร่ำถึงอดีต เรารู้ด้วยการวัดตัวเรา นั่นคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เพราะมันประกอบด้วยความเชื่อมั่น ความพยายาม ความระลึกรู้ ความเป็นหนึ่งเดียวและความรู้รอบตามจริง

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ใช้ Windows 8 บน Notebook เก่า

ได้รับคำแนะนำจากลูกชายให้ติดตั้ง Windows 8 เพื่อทดลองใช้ดู รุ่นที่ใช้เป็น Beta ไม่ใช่ Pro ตอนติดตั้งไม่ยาก Load เร็วกว่า Windows 7  ตอนติดตั้ง Online และ ใช้ ID Windowslive พร้อม Password Login เมื่อติดตั้งแล้ว มันจะเชื่อมต่อกับ Email Skydrive ที่เราใช้บริการอยู่ หน้าตาไม่คุ้น
หน้าตาตอนเริ่ม
จะเห็นว่ามี User ของเรามุมบนขวามือจากจุดนี้เราจะเข้าถึงได้ทุก App ที่มีและถ้าใช้ Scoll บน Mouse จะเลื่อนไปซ้ายขวาเพื่อดูทั้งหมดได้ และถ้า click ขวา จะมี All App ที่มุมล่างขวา เมื่อ click จะเห็น App ทั้งหมด เราจะจัดการให้เห็นในหน้า Start ได้ตามใจเรา
นี่คือ Apps ทั้งหมดที่มีของเรา
จาก Start ถ้าเราเข้า Internet Explorer จากตรงนี้ หน้าตาจะไม่เหมือนที่เราเข้าจาก หน้าปกติ

หน้าตา Internet Explorer ที่เข้าจาก Start

จะป็นประมาณนี้ ได้ติดตั้งชุด Microsoft Office 2013 (ล่วงหน้าตั้งสามเดือนแน่ะ) มีโปรแกรมมาให้เยอะมาก ครบชุดเดิมรวมทั้ง One Note ที่มีใน 2010 ด้วย ทั้งหมดเชื่อมกับ Sky Drives ด้วย
หน้าตา Word 2013
หน้าตา One Note 2013
ดูแล้วต่อไปในอนาคตทั้งหมดจะเชื่อมต่อกันเป็นโลกเดียวกัน เข้าถึง Social Media ได้ง่ายขึ้น
แม้แต่ Ubuntu ที่พึ่งออก ubuntu 12.10 เมื่อ 18 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ก็ได้เชื่อมต่อกับโลก Online เช่นกัน ดู รีวิว ubuntu 12.10 Quantal Quetzal ที่ Ubuntu Thailand
ก็ดีนะครับแข่งกันไป
ลองดู Top 10 Features of Ubuntu 12.10 จาก Youtube ก่อนก็ได้นะครับ



ชอบค่ายไหนก็ไปทางนั้นเลยครับ
ผมก็ทดลองไปเรื่อยๆ เรียนรู้ไป

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หลักสูตร BAR และ AAR ที่เขาแหลม

วงจรความรู้ คุณวิบูลย์
http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/246456_489724204379457_1666940719_n.jpg


ผมคิดว่าการทบทวนก่อนการปฏิบัตินั้น คนเราใช้จินตนาการและความคิด เข้าไปสร้างสัมพันธ์กับเนื้อหาที่เราจะทบทวน และการทบทวนนั้นทำร่วมกับคนอื่น การเปลี่ยนวิธีคิดด้วยการฟังนำมาซึ่งการเข้าถึงรายละเอียดของการทบทวน สร้างทัศนะภาพที่สัมพันธ์สอดประสานกันหลอมรวมความรู้แฝงเร้นของกลุ่มคนเข้าด้วยกัน 



จากสมมุติฐานที่กล่าวมานี้ลองดูงานที่เราจะต้องไปทำคือการสอน หลักสูตร BAR และ AAR ที่เขาแหลม ผม คุณและน้องๆที่จะมาช่วยสอนจะมีจินตนาการของแต่ละคน ผมลองจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น เป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้
ผมตั้งเป้าว่าผลลัพธ์ที่เกิดผู้เข้ารับการอบรมจะมีความรู้ที่จะใช้กระบวนการที่เชื่อมคนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างผลการ BAR และ AAR ที่นำไปใช้ได้ จากจินตนาการนี้ ผมนำมาคิดสร้างหลักสูตรการจะนำเขาเหล่านั้นไปสู่จุดหมายนั้นมันอยู่ภายในและเป็นสิงแฝงเร้นรู้เฉพาะตน



คุณและน้องก็มีจินตนาการและความคิดเช่นเดียวกันกับผม แต่สิ่งที่ต่างกันคือ ความรู้ที่เรามีและนำมาจินตนาการซึ่งต่อไปเป็นความคิดและการกระทำนั้น เรารู้ไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น บริบทและภูมิหลังของผู้เข้าอบรม ความรู้ความชำนาญและทัศนะคติในเครื่องมือที่จะใช้ เป็นต้น
เมื่อเรามาทบทวนร่วมกัน กระบวนการที่จะหลอมรวมความคิดและการเข้าถึงสิ่งแฝงเร้นของเราทุกคนนั้นจำเป็นต้องใช้ กระบวนการสานเสวนา กระบวนการสานเสวนาที่จะได้ผลของปัญญาร่วมต้องมาจากฐาน ความเข้าใจ ไว้วางใจของพวกเราที่จะเปิดพื้นที่ให้สิ่งแฝงเร้นในตัวเราได้ปรากฏออกมา หากกระบวนการเป็นไปด้วยดี สิ่งต่างๆ ที่เป็นข้อสมมุติฐานแฝงเร้นของพวกเราหลอมรวมกันได้แล้ว จุดประสงค์ที่เราสร้างจากการหลอมรวมนั้นก็จะเป็นจุดประสงค์ร่วมของทุกคน ความคิดที่เราจะดำเนินการต่อจึงสอดบรรสานจากความสามารถที่เรา จะกระทำได้จึงจะเผยออกมา ความคิดในแง่มุมต่างๆ ที่ครอบคลุม ทั้งด้านดี ไม่ดี รายละเอียด สร้างสรรค์ ระมัดระวัง และปฏิบัติได้ จะเกิดจากวงของการรวมกัน พลังจะเลื่อนไหลสร้างความเป็นไปได้ สร้างสรรค์ บรรจุรายละเอียดของทั้งสิ่งที่ต้องทำ ผู้กระทำ ผลของมัน ข้อควรระวัง
ต่อจากนั้นเราทุกคนจะเห็นในภาพใหญ่ภาพรวมทั้งหมดทุกแง่มุม แล้วเราจะได้ทำงานที่เราเห็นในจุดประสงค์ร่วมของเราสอดคล้องกับความสามารถของเรา การมอบหมายงานที่เหมาะสมกับความสามารถจะเกิดขึ้น เราจะรู้และร่วมกันรับผิดชอบทำอย่างนั้นได้ ด้วยการใส่ใจที่จะทำสิ่งที่เป็นของเราในส่วนรวมได้อย่างดีขณะเดียวกันบนความสัมพันธ์ที่เห็นวิถีของเพื่อนร่วมงานเราสามารถเกื้อกูลกัน ก้าวไปด้วยกันสู่จุดหมายได้
ทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้ก็ต้องมีเครื่องมือระหว่างการปฏิบัติร่วมกัน เครื่องมือที่ไม่ใช่เฉพาะภายนอกอย่างเดียวแต่เครื่องมือภายในได้ถูกสร้างขึ้นด้วย เมื่อภาระกิจเสร็จสิ้นการทบทวนหลังการปฏิบัติจะตามมา สิ่งที่ทำได้ดี สิ่งที่เป็นโอกาสในการปรับปรุง ข้อเสนอแนะสำหรับการดำเนินการในครั้งต่อไป จะเผยตัวตนออกมา เพื่อให้เราได้ทบทวนแล้วนำไปปฏิบัติต่อเป็นวงจรเกลียววนที่นำความเจริญมาสู่การปฏิบัตินั้นๆ

สรุป กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเนื้อหา ที่ควรจะมีคือ ความเข้าใจในคน การเปลี่ยนวิธีคิดด้วยการฟัง การคิดแบบต่างๆ การสรุปบทเรียนรู้ การเขียนแบบเจาะจง ทั้งหมดนี้อยู่บนทัศนะที่ดีและสร้างสรรค์

อันนี้เป็นข้อมูลที่มีที่น้องเค้าให้มา
วันแรก น้องทอมจะเตรียมผู้เข้าอบรมให้และส่งให้เราเวลา 9.30 น. โดยให้พูดในเรื่อง ทบทวน KM Concept และ KM Tools บทบาทของผู้บริหารกับการจัดการ ความรู้ รู้จักรู้หลัก ประโยชน์ของเครื่องมือ KM โดย ดร.ประพนธ์ ผาสุกยืด บทบาทคุณอำนวย คุณลิขิต คุณกิจ ทั้งหมดนี้ให้เวลา 1 ชั่วโมง ก่อนพักทานเครื่องดื่มแล้วต่อด้วยสานเสวนาถึงเที่ยง ก่อนไปทานอาหาร หลังจากกลับมาจะมีผ่อนพักตระหนักรู้อีก ประมาณ 20 นาที แล้วทั้งบ่ายถึง 16.00 น.เป็นรายการที่น้องเค้าเรียกว่า Workshop สานเสวนา จบด้วยถอดบทเรียน และคำถาม ถึง 16.30 น. โดยให้เราดำเนินการนำพาผู้อบรมไป
วันที่สองจะเริ่มด้วยเรานำเครื่องมือ BAR และ AAR มาให้รู้จักในเบรคแรก เบรคที่สองและที่สาม เป็น Workshop BAR AAR ส่วนเบรคสุดท้ายเป็นถอดบทเรียน เปิดใจ คำถาม แล้วน้องทอมจะมานำผู้เข้าอบรมเก็บใจกลับสิ้นสุด เวลา 15.30 น.

ต่อจากนี้ลองสร้างหลักสูตรบนจินตนาการและความคิดของผมดูนะครับ
เป็นการเชื่อมต่อจากสมมุติฐานด้านบนสุดและเชื่อมกับข้อมูลของน้องทอม
ผมจะละตอนเริมและจบให้น้องทอมดำเนินไปตามที่ตั้งไว้
เมื่อ เข้าสู่ช่วงที่จะนำไปสู่ BAR และ AAR จะเริ่มจาก ความเข้าใจในตนเองและคนอื่น ด้วยสัตว์สี่ทิศ เราเป็นอะไร เพื่อนเห็นเราเป็นอะไร เปิดใจรับฟังได้ไหม ในความต่างกัน ใช้การสนทนากลุ่มมาดำเนินกระบวนการ(สนทนาครั้งแรก) ตรงนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วไปเบรค

ขอบคุณภาพจวาก http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/29/1029/images/tit.JPG


กลับมาสรุปช่วงแรกนำเข้าสู่การคิดโดยการฟัง แทรกความรู้แฝงเร้นและชัดแจ้ง โยงเข้าความคิดหกแบบ ใช้การสนทนากลุ่มเข้ามาอีกครั้ง(สนทนา ครั้งที่สอง) 
ขอบคุณภาพจวาก http://www.loosetooth.com/Viscom/gf/6thinking_hats.gif

คราวนี้มีคุณอำนวย คุณกิจ และคุณลิขิต สรุปนำเสนอใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วไปทานอาหาร 

กลับมาผ่อนพักตระหนักรู้
ขอบคุณภาพจวาก http://i245.photobucket.com/albums/gg73/yogitai/thaiplumsep18_6.jpg

สรุปบทเรียนช่วงเช้าตามด้วยเกมผู้นำ(ชิบปี้ชิบ)ตรงนี้สอดแทรก BAR และ AAR เข้าไปในเกม ลองให้กลุ่มตอนเช้าเขียนเกมผู้นำ เป็นแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อสอดแทรกให้รู้จัก SARs และการถอดบทเรียน จบแล้วไปเบรค กลับมา แนะนำวงจรเรียนรู้ของอ.พินิจ โยงเข้าสู่ วงจรเรียนรู้จากการทำงานที่มีทั้ง BAR และ AAR ให้รู้จักและเน้น Ba เพื่อเตรียมเครื่องมือทั้งหมดให้ให้สนทนากัน(ครั้งที่สาม)เพื่อจะนำเข้าสู่กิจกรรมวันต่อไป คือ การทำ Workshop BAR และ AAR

วันที่สอง กิจกรรมเกมต่อด้วยทบทวนเครืองมือทั้งหมดที่แนะนำเมื่อวันแรก คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของคน(สัตว์สี่ทิศ) การเปลี่ยนวิธีคิดด้วยการฟัง(สานเสวนา) การคิดแบบต่างๆ(คิดหกแบบ) การสรุปบทเรียนรู้ และการเขียนแบบเจาะจง ผมจะใช้กิจกรรมวาดภาพเป็นเครื่องมือสอน BAR และ AAR โดยนำ AAR ของการวาดภาพที่เคยทำไว้แล้วมาให้กลุ่มทำ BAR(สนทนาครั้งที่สี่) เมื่อกลุ่มทำกิจกรรมเสร็จแล้วให้นำมาทำ AAR(สนทนาครั้งที่ห้า) จบเบรคแรกด้วยการนำเสนอของแต่ละกลุ่ม(สนทนากลุ่มครั้งที่เจ็ด) ตรงนี้ถ้ามีพี่เลี้ยงกลุ่มผมหวังว่า จะทำในแต่ละกลุ่ม หลังเบรคเราจะทำ กิจกรรมต่อและจบด้วย BAR(สนทนาครั้งที่แปดและเก้า) ที่ไม่ได้นำไปทำต่อ แล้วไปพักทานอาหารกันกลับมาผ่อนพักตระหนักรู้ตามที่น้องวางไว้ ช่วงบ่ายเราจะทบทวนที่เรียนรู้มาวันครึ่งและสนทนาวงใหญ่(สนทนากลุ่มใหญ่ครั้งที่หนึ่ง) ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง 15นาที เบรคแล้วกลบมาถอดบทเรียน(สนทนากลุ่มใหญ่ครั้งที่สอง) จบแล้วส่งมอบให้น้องทอมต่อไป

ทั้งหมดนี้คือความคิดนะครับ เป็น BAR ของผม โปรดต่อยอดและนำไปสู่การหลอมรวมเพื่อการปฏิบัติโดยพลัน
ด้วยจิตนอบน้อม
ตุ๊ดตู่ ร่าเริง

23 วันที่เรียนรู้หลังเกษียณ


กลับมาถึงบ้าน ตั้งแต่ 29 กันยายน 2555 25 วันต่อมาได้เรียนรู้หลายอย่าง
เรียนรู้จากลูกชายที่จะทดลองใช้ Windows 8 และ Galaxy mini ที่ลูกชายมอบให้
สร้าง Blog ใหม่ ที่นี่ สร้าง Facebook ที่ www.facebook.com/toodtoo.rarearn


สร้าง Page ใน Facebook ชื่อ เรียนรู้ตลอดชีวิต

ไปเยี่ยมเยียนกันบ้างนะครับ ทางไปอยู่ด้านขวามือครับ

ได้เรียนรู้ว่ามี E book ให้อ่านเยอะมากในโลกไซเบอร์ โลกอินเตอร์เน็ต และบางครั้งเราก็ยังต้องอ่าน หนังสือที่เป็นเล่มตามที่เคย อาจเป็นเพราะปรับไม่ทันเทคโนโลยีก็ได้
มีน้องบอกว่าจะไม่เหงาเมื่อเข้าร่วม Facebook ก็น่าจะจริงถ้าเราเป็นคนชอบสังคม แต่บางครั่งเราก็เป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว ชอบที่จะเงียบ ชอบคิด และสังคนแบบ Facebook ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราอยู่ร่วมตลอดเวลา อาจบางทีเราอาจชอบที่จะอยู่โดดเดี่ยว

ที่เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2552

ที่ผ่านมาได้เรียนรู้ที่จะทำบางสิ่งและไม่ทำบางสิ่ง
และพยายามที่จะเรียนรู้จิต ใจ และร่างกายของตนเอง พยายามดูให้เห็นความเคลื่อนไปและถอดถอนตัวเองต่อไป

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ประวัติ Internet

ประวัติอินเทอร์เน็ต อายุ 50 ปี (เกิดหลังผม 10 ปี พอดี 555)
เก็บมาฝากไว้ อ้างอิงรูปจาก http://www.freewarelands.com/pic/internet.jpg

internet-history

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วันศุกร์ ที่ 19 ตุลาคม 2555 เกษียนณมาครบ 19 วัน

19 วันที่ผ่านมาได้อยู่กับครอบครัวมาโดยตลอด วันๆ ก็ Online ไปเรื่อยเปื่อยศึกษาเพิ่มเติมบ้าง ติดต่อกับน้องๆ ที่หวังจะให้ไปสอน KM Workshop บ้าง ยังไม่ได้ทำกิจต่างๆ เป็นกิจจลักษณะพักผ่อนหลังจากทำงานมานาน 37 ปี 8 เดือน
อยูบ้านกายสบาย ไร้งานเป็นภาระ กินอิ่มจนอ้วน ไม่ต้องห่วงหากัน(ครอบครัว) ไม่ต้องโทรหากัน
กรรมดั่งนั้นสิ้นไป แต่ยังมีกรรมใหม่มา
ดูแลจิตใจตัวเอง เขียน Blog ไป แต่งกลอนไป ท่องเน็ตไป

วันนี้ไปที่ ห้องสมุด สสส.

ในนั้นมีหนังสือหลายอย่าง เช่น 10 เล่มสุดฮิต หนังสือ 10 เล่มสุดฮิต ที่ใครๆก็อยากอ่าน เล่มใหม่ร้อนๆ
นิทานคุณธรรม สื่อรัก สื่อคุณธรรม : สัตว์ประหลาด...ของอารี 100 เล่มที่ต้องอ่าน รวมหนังสือน่าสนใจกว่า 100 เล่มที่ไม่ควรพลาด Collection เด่น พลาดไม่ได้แล้ว!!! Collection หนังสือน่าอ่าน รวมหนังสือดีๆ น่าสนใจไว้ที่นี่ คลังวิชาการ
สำรวจดูรายการหนังสือ ที่บอกว่า 100 เล่มที่ไม่ควรพลาดมีหนังสือเพียง 25 เล่ม แต่อย่าพึ่งว่าเขานะครับคงยังใส่ไม่หมด ที่สำคัญไม่ใช่ 100 เล่มที่คนไทยควรอ่านแต่หาอ่านฟรีไม่ได้ ในหัวข้อเล่มใหม่ร้อนๆ มีหนังสือตั้ง 520 เล่ม ลองไปสำรวจเล่นๆ พบหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ


บันทึกการเรียนรู้ Authentic Leadership
บันทึก การเรียนรู้ที่เรียบเรียงมาจากการอบรมเชิงปฏิบัติการ Authentic Leadership ทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เข้าอบรมเกิดการพัฒนาสภาวะภายในของตนเองสู่การ เป็นผู้นำที่แท้ และพัฒนาทีมเรียนรู้เพื่อสร้างสังคมเรียนรู้ การมีวิสัยทัศน์ร่วมกันและการเป็นนายเหนือตนเอง ซึ่งเป็นหัวใจของความเป็นผู้นำ

ลอง Download มาอ่าน (หนังสือเหล่านั้น Download มาอ่านได้ครับ)


 คราวนี้น่าจะไม่ว่างไปอีกนาน มีห้องสมุด Online ที่ไม่หวงหนังสือ และมีให้อ่านได้จริงๆ เยอะมาก
สมกับที่ผมสมทบทุนให้ไปเยอะ 555


วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน

อยู่ที่บ้านมาได้หลายวันแล้ว ชีวิตอยู่ที่ลำปาง ทำงานที่บ้าน

มุมทำงานในบ้าน
ติดต่อโลกภายนอกผ่านทาง Internet 3BB 10 Mb เร็วพอสมควร แต่ NoteBook ตัวเก่ายังทำงานได้อยู่

Note Book ตัวเก่า ได้มาสมัยไปสอน KM ปี 49
Key Board เสีย ก็ต่อ USB Key Board เอา ต่อ USB Mouse ด้วย ต่อลำโพงภายนอกด้วย ถ่านไม่ดีแล่้วเลยเสียบ Charger ทั้งวัน

ทำงานได้ครับ (ถ่ายโดย ณัฐภัทร เก็งธรรม) 
ผลิตงานจากที่บ้าน หากใครมีอะไรให้ทำที่ผ่านเครือข่าย โปรดเรียกใช้ได้นะครับ

ด้วยจิตนอบน้อม
ตุ๊ดตุ่ ร่าเริง

พบกันที่ http://rarearntoo.blogspot.com และ http://toodtooster.blogspot.com
ติดต่อได้ที่ rarearntoo@gmail.com
Facebook http://www.facebook.com/toodtoo.rarearn