วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

ทับทิม จาก Facebook คุณศากุน

Sakun Pitikraisorn
วันที่ 17 กรกฎาคม 2556
;*** หายไปนานวันนี้มีเรื่องต้นทับทิมที่บ้านมาฝากค่ะ


ต้นทับทิบต้นนี้สามีได้มาเป็นของขวัญตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านใหม่ประมาณปี 2542 จำได้เขาบอกว่าสาวๆที่โรงงานที่ไปเป็นที่ปรึกษาอยู่ให้มา 2 กระถาง ดิฉันเอาวางไว้หน้ารั้วบ้านข้างต้นลีลาวดีทั้งซ้ายและขวา จนต้นลีลาวดีดอกขาวพวงเติบใหญ่เจ้าทับทิมก็ยังขนาดเท่าเดิมอยู่ในกระถาง หน้าร้อนจะแย่หนักหน้าฝนดีขึ้นหน่อย เพราะเจ้าของบ้านคือดิฉันไม่ค่อยมีเวลาดูแลเท่าไหร่มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับงาน ที่ทำก็เพียงรดน้ำกับคอยตัดกิ่งเวลามันยื่นเกะกะน่ารำคาญตา
ผ่านไปจนถึงปี 54 น้ำท่วมบ้านสูงมาก ต้นไม้ที่ปลูกไว้เหลือรอดมาหลายต้น แต่ลีลาวดีตายค่ะ เจ้าทับทิมรอดมาต้นเดียวทั้งที่ไม่น่ารอด หลังจากล้างบ้านจัดบ้านเสร็จก็ต้องรื้อและจัดสวนใหม่ ดิฉันให้เขาถอนลีลาวดีออกและปลูกทับทิมต้นนี้ลงไปแทนเพราะในบ้านยังมีปีบต้น ใหญ่(ที่ต้องลุ้นแทบตายให้รอด) ยืนให้ร่มเงาแก่บ้านเพียงพอแล้ว ไม่อยากลงต้นใหญ่อีก และคิดว่าการที่ทับทิมต้นนี้รอดมาคงเพราะเขาเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่บ้านนี้ จริงๆ อีกทั้งเชื่อเอาเองว่าทับทิมเป็นไม้มงคลที่ปลูกไว้หน้าบ้านน่าจะเป็นการดี เพื่อกันไม่ให้สิ่งไม่ดีเข้าบ้านค่ะ
วันนี้เขาเติบโตขึ้นกว่าสมัยที่อยู่ในกระถางมากและงามจนออกลูกน่ารักมาให้ เห็น ทั้งที่ผ่านมาสมัยอยู่ในกระถางดิฉันได้มีโอกาสเห็นดอกแค่ไม่กี่วันก็ร่วง ที่งามเพราะตั้งใจดูแลเขาแล้วค่ะ ทั้งเพิ่มดินดีๆใส่ปุ๋ยBEMทุกสองอาทิตย์
เรื่องนี้ทำให้ย้อนนึกถึงวันเวลาที่ผ่านมา ดิฉันมัวหมกมุ่นอยู่กับงานจนไม่ได้ดูแลทั้งตนเอง ครอบครัว รวมไปถึงต้นไม้ วันนี้จึงจัดเวลาพลิกกลับใหม่เป็นให้เวลากับงานน้อยลง แถมไปหาคุณหมอที่่ รพ.รามาฯ ให้ท่านช่วยจัดการกับสุขภาพให้เพราะไม่ค่อยจะดีแล้ว การที่นั่งทำงานมากและไม่จัดเวลาออกกำลังกายเลย ทำให้ดิฉันอ้วนขึ้น เป็นโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ความดันโลหิตสูง และอาจเป็นเบาหวานในไม่ช้า ถ้าไม่รีบไปหาหมอสภาพดิฉันก็คงเหมือนเจ้าต้นทับทิมแต่ก่อนเป็นแน่
เล่ามามากมายเพราะไม่อยากให้หลายๆท่านที่มัวหมกมุ่นอยู่กับงานเช่นกันต้อง เป็นอย่างดิฉัน ต่อไปนี้ทับทิมต้นนี้จะให้ดอกผลที่ยลแล้วชื่นใจไปอีกนานแน่ๆค่ะ ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขนะคะ

Sakun Pitikraisorn
วันที่ 18 กรกฎาคม 2556
เมื่อวานเล่าถึงต้นทับทิมที่บ้านว่าช่วงเวลานี้มีเวลาดูแลเขามากกว่าแต่ก่อนที่มัวทำแต่งานจึงได้มีโอกาสเห็นผลของเขาโดยนำเขาลงดินที่ดีใส่ปุ๋ยรดน้ำสม่ำเสมอ
หากทัมทิมต้นนี้เป็นคนทำงานและดิฉันเป็นเจ้าของบริษัทเขาคงน้อยใจจนลาออกไปนานแล้วค่ะเพราะBossไม่สนใจใยดีเอาซะเลย ไม่สนว่าเป็นพันธุ์ดีมาจากไหนมีCompetencyอย่างไรเอ็งนั่งทำงานตรงนั้นก็ทำๆไปแล้วกันเก่งมั้ยเก่งก็ไม่เคยรับรู้คิดไปเองว่าเอ็งก็คงแค่เนี้ย จึงไม่ดูแลทุกข์สุขไม่ให้รางวัลที่เหมาะสมกับความอดทน เป็นคุณจะลาออกมั้ยคะ แต่คนเราบางทีก็ไม่รู้จะไปไหนดี อยู่ตรงนี้มานานทำไปบ่นไปจนชิน บางคนบ้านใกล้ก็ว่าไม่เป็นไร ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเรื่อยๆหาความสุขใจใส่ตัวเองก็ได้
จนมาวันนี้ที่เจ้านายพึ่งเห็นว่ายามเจอภัยพิบัติลูกน้องคนนี้มีศักยภาพสามารถสู้อยู่กับบริษัทจนรอดมาได้จึงเริ่มมองเห็นคุณค่าว่านี่คือเพชรเม็ดงามที่ไม่เคยชายตามองเลย
และเมื่อเพชรเม็ดนี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่เจียระไนอย่างดีโดยการนำเขาลงปลูกในตำแหน่งที่หมาะสมกับศักยภาพ คอยชี้แนะชื่นชมเหมือนคอยพรวนดินรดน้ำและใส่ปุ๋ยอยู่เสมอ ผลของงานก็ออกมาให้เจ้านายได้ชื่นใจดังผลลูกทับทิมที่ดิฉันได้ชื่นใจทุกครั้งที่เห็น เวลามีวัชพืชมาขึ้นเหมือนมีคนอื่นคอยอิจฉาให้ร้ายดิฉันก็คอยดูตัดออกไม่ให้มากวนใจ
ต้นไม้กับคนจึงแทบไม่ต่างกัน ท่านใดเป็นผู้บริหารคงเข้าใจเรื่องนี้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แล้ววันนี้ท่านเห็นเพชรในที่ทำงานที่ท่านไม่คาดคิดว่าจะมีเพราะไม่เคยเพ่งมองคุณค่าของเขาอย่างจริงใจรึยังคะหรือท่านได้ขว้างเพชรที่มีไปลงดินที่อื่นไปซะแล้ว อย่างที่มีคนเก่งและคนดีย้ายหรือลาออกจากองค์กรจากหน่วยงานไปสร้างความเจริญให้ที่อื่น กว่าจะรู้ก็สายเสียแล้ว
บางทีผู้บริหารแบบนี้แหละที่นำพาให้องค์กรเสื่อมลงไปเรื่อยๆ โดยผู้บริหารบนหอคอยก็ไม่รับรู้ รึคงเป็นกรรมเป็นวาสนาขององค์กรเองกระมังคะ
ถ้ายังไงก็ขอให้นึกถึงต้นทับทิมของดิฉันไว้เป็นข้อคิดก็แล้วกันค่ะ.       — at พุทธมณฑลสาย3.


ทับทิมของผม

ต้นทับทิมเมื่อแรกปลูกที่ลำปาง

ผมได้อ่านเรื่องทับทิมของคุณศากุน ตามเรื่องราวข้างต้นแล้วเกิดแรงบันดาลใจบางประการผมได้ขออนุญาตคุณศากุนเพื่อนำมาต่อยอดความคิดตามที่มีแรงบันดาลใจ ซึ่งคุณศากุนตอบว่ายินดี ผมรอเวลาเพื่อพิสูจน์บางอย่าง บางอย่างที่ผมได้ประสบกับตนเอง
ผมเองก็ย้ายต้นทับทิมจากบ้านหลังเดิมที่เคยอาศัยอยู่มาเป็นเวลาสิบกว่าปี ตัดต้นและขุดมาปลูกในบ้านหลังใหม่ รอเวลาว่าเมื่อเขาเจริญออกดอกออกผลแล้วจะได้นำมาต่อยอดจากความคิดที่คุณศากุนได้ให้ทัศนะไว้ ตอนนี้ทับทิมที่ผมตัดและขุดมาได้เติบโตและมีดอกผลให้เห็น ใช้เวลาจากที่นำมาจนถึงวันนี้ประมาณหนึ่งปีสามเดือน ทับทิมของคุณศากุณอยู่ที่พุทธมณฑลสายสาม กทม. ทับทิมของผมอยู่ที่ตำบลพิชัย อำเภอเมืองจังหวัดลำปาง ทับทิมของคุณศากุนย้ายที่ไม่ไกลได้รับการดูแลใส่ปุ๋ยเมื่อย้าย ทับทิมของผมเพียงแต่เอามาปลูกลงดินและอยู่ห่างจากที่เดิมประมาณสิบกิโลเมตร ผมไม่รู้ว่าทับทิมของคุณศากุนใช้เวลาเท่าใด แต่ถ้าประมาณจากน้ำท่วม และมาย้ายปรับปรุงแล้วลงดินที่ใหม่แล้วคงประมาณไม่ต่ำกว่าปีกับเจ็ดเดือน 


ทับทิมที่บ้านลำปางที่ย้ายมาเริ่มออกดอกและผล

ผมอยากจะตั้งประเด็นเพื่อแลกเปลี่ยกันสักสามประเด็นครับ ความหมายของทับทิม การดำรงอยู่ และการเรียนรู้
ความหมายของทับทิม
ทับทิมในความหมายของคุณศากุน "เขาเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่บ้านนี้ จริงๆ อีกทั้งเชื่อเอาเองว่าทับทิมเป็นไม้มงคลที่ปลูกไว้หน้าบ้านน่าจะเป็นการดี เพื่อกันไม่ให้สิ่งไม่ดีเข้าบ้านค่ะ"
ในความหมายของผม "ทับทิมเป็นไม้มงคลและมีประโยชน์ทางโภชนาการ" ผมปลูกไว้ไม่หน้าบ้านนักแต่อยู่เคียงกับเสาหน้าบ้านและอยู่ด้านตะวันออก เพื่อความเป็นสิริมงคลเช่นกัน
จากความหมายนี้คุณศากุนได้จัดการที่อยู่ ดูแลและชื่นชมกับผลของทับทิม ตามสมควรจนได้ผลสมความหมายของทับทิม ในขณะที่ผมนอกจากมีใจหวังรดน้ำไม่ได้พรวนดินแถมยังจัดต้นชาดัดอยู่ที่โคนต้นเพื่อความสวยงาม ผมเชื่อของผมว่าต้นทับทิมเหมือนเสาที่สามของหน้าบ้านที่จะสร้างสิริมงคล เสี่ยงทายว่าถ้าเขาเจริญงอกงาม เราจะเจริญงอกงามไปด้วย และเพื่อผลทางโภชนาการผมหวังว่าครอบครัวเราจะได้รับประทานทับทิมนี้ด้วยครับ
การดำรงอยู่
การดำรงอยู่ของทับทิมที่คุณศากุนวาดภาพไว้ คือ "ต่อไปนี้ทับทิมต้นนี้จะให้ดอกผลที่ยลแล้วชื่นใจไปอีกนานแน่ๆค่ะ"
สำหรับผมการดำรงอยู่ของทับทิมคือการเสี่ยงทายต่อความเป็นไปของผมตามที่ได้ให้ความหมายไว้
ด้วยเหตุดังนี้ ผมและคุณศากุนคงปฏิบัติต่อทับทิมต่างกัน การดำรงอยู่เพื่อความงอกงามย่อมได้รับการดูแล ส่วนการดำรงอยู่ที่เป็นการเสี่ยงทายย่อมต้องได้รับการปล่อยปละละเลยเป็นธรรมดา
การเรียนรู้
คุณศากุนเรียนรู้โดยพูดถึง ตน ผู้บริหาร และองค์กร แล้วให้"นึกถึงต้นทับทิมของดิฉันไว้เป็นข้อคิดก็แล้วกันค่ะ" (ย้อนกลับไปอ่านอีกครั้งข้างต้นนะครับ)
สำหรับผมทับทิมทำให้ผมเรียนรู้อะไรบ้าง ทับทิมเป็นไปในชีวิตอย่างนั้นด้วยองค์ประกอบใหญ่สองประการ อย่างแรกเป็นผลที่ผู้ปลูกปฏิบัติต่อเขา และอย่างที่สองซึ่งสำคัญเขามีชีวิตของเขาอย่างนั้นเอง คำว่าชีวิตของเขานั้นต้องดำรงอยู่ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เข้ามาหาและทำให้เป็นไป ธรรมชาติแวดล้อมชีวิตนั้น ดิน น้ำ ลม ไฟ ความสัมพันธ์กับชีวิตอื่นที่เกื้อหนุนและเบียดเบียน พีชด้วยกันหรือสัตว์ก็ตามแต่
อย่างแรกเป็นความสัมพันธ์ฺเชิงเดี่ยว ความสัมพันธ์นี้เป็นไปได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับผู้ปลูกเป็นสำคัญ ทะนุบำรุงหรือปล่อยปละละเลย ทะนุบำรุงมากไป ทะนุบำรุงน้อยไป ทะนุบำรุงพอดี ปล่อยปละแบบให้อิสระ ปล่อยปละแบบละทิ้ง ปล่อยปละแบบจะจับแต่แสร้งปล่อย ทั้งนี้เป็นระบบอำนาจคาดหวังบังคับกดดัน หรือระบบอุปถัมภ์ค้ำชูพึ่งพาอุปถัมป์ หรือระบบยืนหยัดด้วยความสามารถของรากแห่งตน
อย่างที่สองเป็นความสัมพันธ์เชิงสัมพัทธ์ ความสัมพันธ์นี้อาศัยโยงใยสลับซับซ้อนไม่ขึ้นอยู่กับผู้ใด ความสัมพันธ์เป็นไปในการให้และรับอย่างสมดุล อาศัยดิน น้ำ ลม แสงแดด(ไฟ) อย่างได้ดุลยภาพ รับและให้อย่างเป็นมิตรไมตรีเข้าใจในเจตจำนงของสรรพสิ่งที่สัมพันธ์อย่างเมตตาและอดทน เช่น อยู่กับแมลงที่กัดกินและผสมเกสร อยู่กับพืชอื่นอย่างแบ่งปัน ดิน น้ำ ลม และแสงแดด เป็นต้น
ทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่า สรรพชีวิตล้วนมีเจตจำนงค์ในการดำรงอยู่เพื่อ เติบโต พัฒนา สู่ความสมบูรณ์ ยังความสดชื่น แจ่มใส และมีกันและกันในดุลยภาพแห่งสรรพชีวิต
จากจิตปรารถนาดี
ด้วยจิตนอบน้อม
ตุ๊ดตู่ ร่าเริง